Monday, January 30, 2017

การดูแลรักษากีตาร์โปร่งและกีตาร์คลาสสิก ตอนที่1

      สวัสดีครับ วันนี้ผมกำลังทำเอกสารการดูแลกีตาร์เพื่อให้กับลูกค้า กำลังหาข้อมูลที่เป็นภาษาไทย มีความกระจัดกระจาย ไม่ครบทุกด้าน จึงเข้าไปดูที่เอกสารการดูแลรักษากีตาร์ของ กีตาร์ Martin เป็นภาษาอังกฤษ 20 หน้า และ กีตาร์ Taylor ซึ่งให้รายละเอียดรอบด้าน เลยนำมาสรุป และเพิ่มเติมข้อมูลจากประสบการณ์ โดยแบ่งหัวข้อต่างๆ ดังนี้

    1.เรื่องความชื้นสัมพัทธ์ อุณหภูมิ และการเก็บรักษา

     กีตาร์โดยทั่วไปควรเก็บที่ความชื่นสัมพัทธ์ประมาณ 45-55% ที่อุณหภูมิ 22-25 องศาเซลเซียส เป็นคำแนะนำของกีตาร์ Martin  ส่วนตัวผมว่าประมาณ 40-60%  อุณหภูมิ 20-30 องศาเซลเซียส ยังพอไหว

     ทำไมควรเก็บที่ความชื่นสัมพัทธ์ประมาณ  45-55% ที่อุณหภูมิ 22-25 องศาเซลเซียส ?

    การผลิตกีตาร์ส่วนใหญ่มีการควบคุมความชื้นสัมพัทธ์ระดับ 45-55%  อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส   โดยเฉพาะกระบวกการประกอบซึ่งมีการใช้กาวเป็นตัวยึด ไม้แต่ละส่วนแต่ละชนิดถูกติดเข้าด้วยกัน ถ้าขั้นตอนนี้มีความระดับความชื่นสัมพัทธ์และอุณหภูมิที่ต่างกันมากทำให้ไม้แต่ลำส่วนยืดหดไม่เท่ากันไม้เกิดความเคลียด ส่งผลให้ประสิทธิภาพของกีตาร์ลดลงอายุการใช้งานสั้นลง อีกอย่างความชื้นสัมพัทธ์ระดับ 45-55%  อุณหภูมิ 25 องศา เป็นตัวเลข กลางๆ ในบางครั้งมีข้อแนะนำให้เฉลี่ยระดับความชื้นสัมพัทธ์สูงสุดและต่ำสุด ค่าเฉลี่ย บวกลบ 5 เป็น ตัวเลขที่เหมาะสมสำหรับห้องผลิตกีตาร์

    ความชื้นและอุณหภูมิส่งผลอย่างไรต่อกีตาร์ ? 
 
    กรณีความชื้นและความร้อนในอากาศสูง โดยเฉพาะหน้าร้อนกับหน้าฝนในบ้านเรา อาจทำให้ประสิทธิภาพกาวค่อยเสื่อมลง ส่งผลให้โครงสร้างหลุดได้ เช่น บริจด์อ้าออก หรือ ไม้เกิดการอมความชื้นทำให้ไม้บิดตัว เช่นไม้หน้าบวม ซึ่งทำให้ action สูงขึ้นจากปกติ เป็นต้น
   กรณีความชื้นและความร้อนในอากาศต่ำ ทำให้กีตาร์หดตัวลงส่งผลให้กีตาร์ร้าว หรือ แตกได้ หรือในบางครั้งทำให้ Fingerboard หดตัวทำให้ขอบ Fret โผล่ออกมาข้างๆ Fingerboard หรือในหน้าหนาวซึ่งบางวันมีอากาศแห้งมาก เท่าที่ผมเคยสังเกตค่าต่ำสุดลงมาถึงระดับความชื้นสัมพัทธ์ 30% ทำให้ไม้หน้ายุบตัว Action ต่ำกว่าปกติ เกิดอาการ  Buzz  และกีตาร์ร้าว และ แตก ในช่วงเวลานี้มาก ส่วนใหญ่

   ในบ้านเราจะมีปัญหาเรื่องความชื้น โดยความชื้นสัมพัทธ์และอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ ประมาณ 75% และ 27 องษาเซลเซียส มีค่าสูงสุด ต่ำสุด ตามฤดูที่ต่างกัน การเก็บรักษาจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ใช้กีตาร์ควรเรียนรู้การเก็บอย่างไรให้เหมาะสม รู้ว่าสถานะการใดควรหลีกเลี่ยง  เช่น
   - ไม่ควรเก็บกีตาร์ ไว้กระโปงหลังรถหรือในรถในวันที่ร้อน
   - ไม่ควรแขวนกีตาร์ทิ้งไว้ข้างนอก เช่น แขวนโชว์ที่กำแพง โดยห้องนั้นไม่มีความควบคุมอุณหภูมิและความชื้น ถ้าอยากจะโชว์ควรทำตู้เก็บแสดงที่ปิดมิดชิด
   - กีตาร์ควรเก็บใส่กล่องเสมอเมื่อไม่เล่นเพราะการควบคุม อุณหภูมิและความชื่นในที่แคบทำได้ง่ายกว่า
   - ควรมีเครื่องวัดความชื้นจะเป็นแบบดิจิตอล หรือแบบเข็ม ก็ได้ อันเล็กๆ ราคาไม่น่าเกิน 500 บาท พกติดไว้ในกล่องกีตาร์ ถ้าความชื่นมาก ควรหาอุปกรณ์ดูดความชื่นมาใส่ไว้ ได้แก่ Silica gel ถ้าหมดอายุควรเปลี่ยน เท่าที่สังเกตสวนใหญ่ใส่กันไว้นานไม่เคยเปลี่ยน มันไม่ช่วยดูดความชื่นแล้ว หรือเครื่องดูดความชื่นแบบไฟฟ้า เป็นต้น
  ตัวอย่างเครืองดูดความชื่น
 แบบไฟฟ้า http://acousticthai.net/dehumidifier-gw-e-333.html
แบบสองด้านทั้งดูดและคาย https://www.youtube.com/watch?v=f7kEr16a7Rs
 
  คราวหน้าอ่านกันต่อในหัวข้ออื่นๆครับ เจอกัน